พระไภษัชยคุรุ พระมหาแพทย์ราชาพุทธเจ้า
สร้างโดย ครูบาชัยมงคล ชยฺธมฺโม วัดไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่
เนื้อโลหะชนวนเก่า ฐาน 2 ซม. สูง 4ซม หล่อโบราณ
*****"พระไภษัชยคุรุ "พระนามของท่านหมายถึงพระตถาคตเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค พระมหาแพทย์ราชาพุทธเจ้า
พระองค์อยู่ในท่านั่งสมาธิ มีรัตนเจดีย์วางบนพระหัตถ์ ถือกันว่าเป็นพระพุทธเจ้าที่สามารถรักษาโรคทางกายและโรคทางกรรมของสัตว์โลก
*****
พระปณิธาน ๑๒ ข้อ ของพระไภษัชยคุรุฯ
๑. ขอให้พระกายของข้าฯ มีรัศมีสุกสว่างไปทั่วพิภพ ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายมีรูปกายที่สมบูรณ์เช่นเดียวกับข้าฯ
๒. ขอให้พระกายของข้าฯ บริสุทธิ์และมีรัศมีดุจมณีสีฟ้า ขอให้รัศมีนี้สุกสว่างดุจเดียวกับพระอาทิตย์และพระจันทร์ ส่องหนทางให้แก่ผู้ที่เดินทางอยู่ในความมือด ช่วยให้เขาเดินทางได้สะดวกขึ้น
๓. ด้วยความสามารถอันหาขอบเขตมิได้ของข้าฯ ขอให้ข้าฯ ได้ช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายให้สามารถแสวงหาสิ่งจำเป็นแก่ชีวิต
๔. ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหาย ได้เข้าสู่มรรควิถีแห่งพุทธภูมิ ขอให้ทุกท่านที่อยู่ในสาวกยาน และปัจเจกพุทธยานได้เข้าถึงการปฏิบัติของมหายาน
๕. ขอให้สรรพสัตว์ได้รับการสนับสนุนให้ได้ปฏิบัติตามศีล ผู้ใดก็ตาม แม้ได้ยินพระนามของข้าฯ แม้รักษาศีลขาดตกบกพร่องไป ก็ขอให้ได้มีความบริสุทธิ์ และได้รับความคุ้มครองมิให้ตกไปสู่วิถีแห่งอบาย
๖. ผู้ที่พิการในรูปแบบใดแบบหนึ่ง แม้ได้ยินพระนามของข้าฯ ขอให้หาย
๗. ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย แม้ได้ยินพระนามของข้าฯ ขอให้หาย
๘. ขอให้ทุกคนได้ข้ามพ้นสังสารวัฏเข้าสู่ประตูนิพพาน ข้าฯ จะขจัดอุปสรรคและความสงสัยทั้งปวง
๙. สรรพสัตว์ที่ติดอยู่ในตาข่ายแห่งมาร หมกมุ่นในมิจฉาทิฏฐิ ขอให้ได้เจริญในสัมมาทิฏฐิ และปฏิบัติตามแนวทางของโพธิสัตต์
๑๐. ขอให้ทุกคนที่ต้องโทษได้พ้นทุกข์
๑๑. ขอให้ทุกคนที่ทุกข์ยากหิวโหย ขอให้มีอาหาร และขอให้เข้าถึงธรรมอันเกษม
๑๒. ขอให้ทุกคนที่ยากไร้ มีเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
*****
การหล่อแบบโบราณ
เป็นวิธีการที่ใช้ในการสร้างรูปหล่อ และเหรียญหล่อโบราณ มากมายในพระเครื่องต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นพระยอดนิยมอันดับต้นๆของประเทศ เช่น รูปหล่อ-เหรียญหล่อ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร รุ่นแรก, รูปหล่อหลวงพ่อเดิม เป็นต้น
ขั้นตอนการหล่อแบบโบราณ ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆดังนี้
1) การขึ้นดินหุ่น คือการแกะหุ่นดินตามรูปพรรณสัณฐานที่ต้องการ จากนั้นจึงนำมาหล่อเป็นองค์พระต้องการ พระที่ได้ครั้งแรกนี้เรียกว่า “แกนหุ่นดิน”
2) เข้ารูปขี้ผึ้ง เมื่อได้แกนหุ่นที่หล่อเรียบร้อยแล้ว จะนำขี้ผึ้งมาพอกองค์พระ แกะตกแต่งรายละเอียดด้วยเสนียด (ไม้ทองเหลืองปลายแบน) จนเป็นที่พอใจก็จะได้รูปขี้ผึ้งองค์พระที่ต้องการจะให้เป็นในลักษณะอากัปกิริยาต่างๆ ตลอดจนลวดลายตามความประสงค์ของผู้แกะแบบ
3) พอกดินขี้วัว เมื่อได้รูปขี้ผึ้งแล้วก็นำดินขี้วัว (นำขี้วัวมาคั้นน้ำผสมกับดินเหนียวและทรายให้ข้นจับตัวกันเหนี่ยวแน่น) พอกให้ทั่วองค์พระหุ่นขี้ผึ้ง แล้วเจาะรูตรงปลายเพื่อให้ขี้ผึ้งไหลออกมาเมื่อถูกความร้อนสูง
4) เทสารละลาย นำโลหะผสมที่หลอมละลายรวมกันเข้าที่แล้ว เทลงในเบ้าแม่พิมพ์ ความร้อนจะทำให้ขี้ผึ้งละลายออกมาจากรูที่เจาะไว้เรียกว่า “การสำรอกขี้ผึ้ง” โลหะผสมจะเข้าแทนที่ขี้ผึ้งได้รูปองค์พระที่ต้องการ
5) การทุบเบ้าทิ้ง เมื่อกระบวนการต่างๆที่ผ่านมาสำเร็จด้วยดีแล้ว พอโลหะจับกันแข็งตัวและเย็นดีแล้ว ก็จะมีการทุบเบ้าดินที่หุ้มองค์พระไว้ออกให้หมด ดังนั้น จึงมีการเรียกพระหล่อโบราณว่า “พระพิมพ์เบ้าทุบ”