พระครูชัยรัตนบรรพต ( พระอาจารย์ภูไทย ปภากโร )
พระเกจิอาจารย์ผู้ทุ่มเทศึกษาสืบสานวิทยาคมล้านนา
พระอาจารย์ภูไทย ปภากโร เกิดเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๑๕ ตรงกับ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ณ บ้านใหม่ชัยมงคล ต.เขาแก้วศรีสมบูรณ์ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ณ อุโบสถวัดเขาแก้วชัยมงคล ต.เขาแก้วศรีสมบูรณ์ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย โดยมี หลวงปู่ครูบาอินทะนิจ จิตฺตสุโภ (พระครูบรรพตรัตนชัย ) เจ้าอาวาสวัดเขาแก้วชัยมงคล เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิบูลธรรมทัต วัดท่าวิเศษ เป็น พระกรรมวาจาจารย์พระครูสิริปัญญาภิราม วัดม่อนศรีสมบุวณาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้อยู่ ศึกษาวิชาความรู้ต่างๆจาก ครูบาอินทนิจ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งท่านเป็นพระเถระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงรูปหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย รุ่นเดียวกับ หลวงปู่โถม อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย
จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนด้านอักษรล้านนา และสัพพะวิทยาต่างๆ ที่จังหวัดน่าน ณ สำนักวัดสวนตาล จังหวัดน่าน ขณะเดียวกันก็ได้ เรียนนักธรรม จนสำเร็จนักธรรมชั้นเอก สอบบาลีได้ประโยค ๑-๒ และได้ออกเดินธุดงค์ปลีกวิเวกไปตามที่ต่างๆ ในจังหวัดน่าน พะเยา ลำปาง จนถึง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ขณะที่ปฏิบัติธรรมอยู่ที่อำเภอแม่สอดนั้น หลวงปู่ครูบาอินทนิจ ได้ให้คนไปตามกลับมา เพื่อช่วยท่านสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่วัดเขาแก้วชัยมงคล ซึ่งขณะนั้น ท่านชราภาพมากแล้ว หลังจากนั้นได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาส จนถึง พ.ศ. ๒๕๔๖ หลวงปู่ครูบาอินทนิจ ได้มรณภาพลง (อายุ ๘๓ ปี) ทางคณะสงฆ์โดยเจ้าคณะอำเภอทุ่งเสลี่ยม ได้แต่งตั้งท่านให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จนถึงปัจจุบัน
ได้รับการศึกษาสัพพะวิชาอาคมจากครูบาอาจาย์ ต่างๆ อาทิ
-ได้ศึกษาวิชาความรู้ต่างๆ กับหลวงปู่ครูบาอินทนิจ พระอุปัชฌาย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาแก้วชัยมงคล เกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงของจังหวัดสุโขทัย
-ได้รับการสืบทอดตำรับตำราของครูบาชุ่ม ธมฺมวโร อดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำโท้ง อ.เถิน จ.ลำปาง เกจิอาจารย์ผู้มีความขลังด้านเมตตามหานิยม ผู้สร้างผ้ายันต์ พรหมสามหน้า และ ผ้ายันต์ม้าเสพนาง อันเอกอุ และ เจ้าตำรับ ตะกรุดเก้ากุ่มคุ้มเกล้า อันโด่งดัง
- ได้ศึกษาวิชากัมมฐาน จากหลวงปู่ครูบาผัด ปุญญกาโม วัดหัวฝาย จ.สุโขทัย ผู้ซึ่งเป็นลูกศิษย์ ของครูบาเจ้าพรหมา พรหมจักโก เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน
- ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ครูบาครอง ขตฺติโย พระเถระผู้ปฏิบัติธรรมอยู่ป่า เป็นเวลากว่า ๖๐ ปี
- ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ครูบาคำปัน ปภากโร (พระครูรัตนปภากร) วัดนาแส่ง จ.ลำปาง พระอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมล้นไปด้วย เมตตาบารมี
- ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี ผู้บำเพ็ญเมตตาบารมี และได้รับการถ่ายทอดวิชา ลงนะหน้าทองจากหลวงปู่บุญ และสัพพะวิชาอาคมต่างๆอีกมากมาย
- เป็นผู้เก็บรักษา ไม้เท้าคู่บารมี ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม จ.ลำพูน ผู้ซึ่งเป็นศิษย์เอกครูบาศรีวิชัย ซึ่งลูกศิษย์ครูบาท่านหนึ่งได้มอบให้
- เป็นผู้เก็บรักษา ไม้เท้าคู่บารมีหลวงปู่ครูบาเจ้าวงศ์ (ครูบาชัยวงศาพัฒนา) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ซึ่งลูกศิษย์ครูบาท่านหนึ่งได้มอบให้
- เป็นผู้เก็บรักษา (ผ้าป๋าต๊ะ)รอยฝ่ามือ ฝ่าเท้าครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา
สืบสานตำราครูบาวัง พรหมเสโน วัดบ้านเด่น
หลวงพ่อครูบาวัง ท่านเป็นพระเถราจารย์ที่เจริญด้วยพรหมวิหารธรรม ดดยเฉพาะเมตตาเป็นที่ศรัทธาของศิษยานุศิษย์และญาติโยมที่เคารพนับถือท่าน เดินทางมากราบนมัสการอย่างไม่ขาดสาย บ้างมาขอให้ท่านประพรมน้ำมนต์และทำเทียนสะเดาะเคาะห์ เมื่อมาแล้วหลวงพ่อครูบาวังจะเมตตาจ่ายแจกวัตถุมงคลให้มีอาทิ เหรียญ รูปเหมือน ยันต์เก้ากุ่ม ยันต์หนีบ ตะกรุดและผ้ายันต์ม้าเสพนาง และตะกรุด 108 ดอก ล้วนแล้วแต่เข้มขลังเมตตามหานิยมครบถ้วน จากปฏิปทาที่ท่านเป็นพระเถระที่เจริญจิตภาวนาบำเพ็ญวิ ปัสสนากรรมฐานและศึกษาเวทย์วิทยาคมตลอดมา วัตถุมงคลของท่านนอกจากจะศักดิ์สิทธิ์ทรงฤทธานุภาพเข้มขลังแล้ว ยังมีปริศนาธรรมแฝงอยู่เสมอ
คืนหนึ่งขณะที่พระอาจารย์ภูไทย กำลังทำกรรมฐานอยู่ ได้นิมิตไปว่า ได้ไปเจอะพระภิกษุชรารูปหนึ่ง นั่งอยู่บนเก้าอี้เองหลังโบราณ ในนิมิตรท่านอาจารย์ภูไทย ได้เข้าไปกราบท่านและขอเรียนวิชากับท่าน ท่านได้เมตตาบอกสอนวิชาพร้อมกับบอกเคล็ดลับบางประการให้ทราบ ทั้งๆที่ตอนนั้นยังไม่ทราบเลยว่าพระภิกษุชรารูปนั้นชื่ออะไร อยู่วัดไหน หลังจากคืนนั้นแล้ว ท่านได้พยายามสอบถาม และพยายามค้นหาว่าพระภิกษุรูปนั้นคือใคร
จนวันหนึ่งหลังจากท่านพระอาจารย์ได้ไปร่วมงานทำบุญอายุวัฒนมงคลของหลวงปู่บุญ โสภณวัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี เสร็จงานท่านได้เดินทางไปจังหวัดขอนแก่น เพื่อทำธุระบางประการ ณ ที่นั้น ท่านได้เจอะพระรูปหนึ่ง ก็ได้สนทนากัน และท่านได้เล่าเหตุนิมิตรในคืนนั้นให้พระรูปนั้นฟัง พระรูปนั้นก็บอกว่า น่าจะเป็นหลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก ซึ่งท่านได้มรณะภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๖ แล้ว
จากนั้นเพื่อความกระจ่างชัด ท่านพระอาจารย์ภูไทย ได้เดินทางมายังจังหวัดตาก พร้อมพระรูปนั้น ปรากฏว่า เมื่อเห็นกุฏีหลังหนึ่ง ท่านบอกได้เลยว่า เป็นกุฏีที่เห็นในนิมิตรจริงๆ และเมื่อไปเห็นรูปหลวงพ่อครูบาวัง ก็เป็นองค์เดียวกับที่ท่านเห็นในนิมิต จากวันนั้นท่านพระอาจารย์ได้พยายามเสาะแสวงหาสอบถามว่า ลูกศิษย์หลวงพ่อวังที่มีชีวิตอยู่ จนได้พบกับโยมพ่อเหลือ ซึ่งถือว่าเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของหลวงพ่อวัง ที่ได้เรียนวิชากับท่าน พระอาจารย์ได้บอกเล่านิมิตในวันนั้นให้โยมพ่อเหลือฟัง พร้อมกับขอถ่ายทอดวิชาสายหลวงพ่อครูบาวังทั้งหมด เพื่อสืบสานเจตนาของหลวงพ่อ พร้อมกับยกขันต์ขึ้นครูเป็นศิษย์หลวงพ่อครูบาวัง ซึ่งโยมพ่อเหลือได้ยินดีถ่ายทอดวิชาสายหลวงพ่อวังทั้งหมด ที่ท่านได้เรียนมาจากหลวงพ่อวัง อาทิ
ตะกรุดยันต์ ๑๐๘ ตะกรุดเก้ากุ่ม ตะกรุดจำปาสี่ต้น ตะกรุด(ยันต์)หนีบ ผ้ายันต์ม้าเสพนาง ผ้ายันต์อิ่นแก้ว ฯลฯ
พระอาจารย์ภูไทย เป็นพระเกจิอาจารย์แห่งยุคปัจจุบันที่มีความศรัทธาในปฏิปทาบารมี วิทยาคุณของหลวงพ่อครูบาวัง ได้ตั้งปณิธาณสืบสานวิทยาคมตำหรับครูบาวัง พรหมเสโน วัดบ้านเด่น อย่างครบสมบูรณ์บริบูรณ์ ครบศาสตร์ครบสูตรตามแบบโบราณาจารย์ล้านนา โดยความเมตตาของลุงเหลือ สิงห์คุณ ศิษย์สายตรงของหลวงพ่อครูบาวัง